เราได้เห็นคำถามนี้ทุกครั้ งเมื่อเปฺิดเข้าไปในเฟชบุ๊ค " คุณกำลังคิดอะไรอยู่ ? " เห็นบอยจนเคยชิน
มองข้าม และแทบไม่ทันสังเกตเลย ว่ามันตลกสินดี ที่ในยุคสมัยนี้ เว็บไซต์ที่กำลังได้รับความนิยม
มากที่สุดในโลก คือเว็บไซต์ที่มีบริการหลัก คือการบอกให้ผู้ใช้เข้ามาบอกคนอื่นๆ ว่าตนกำลังคิดอะไร
กำลังอยู่ที่ไหน เราเป็นคนอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรือแม้กระทั่งว่าเรากำลังตกหลุมรักใคร
และเราเกลียดขี้หน้าใคร
มันกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกไปแล้ว คนทั้งโลกมารวมชุมนุมกันอยู่ในชุมชนออนไลน์
เพื่่อบอกคนอื่นๆ ว่าเราต่างคนตางคิดอะไรกันอยู่? ทุกวัน ทุกคืน ทุกที่ ทุกเวลา ตั้งแต่ตื่นนอนลืมตา ในตอนเช้าหลับตาอยู่ในยามค่ำคืน เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ตได้รุกล้ำเข้ามาในความเป็นสวนตัวของ
เรามากขึ้นเรื้อยๆ โดยความเต็มใจของเราเองทุกคน ซึ่งในตอนนี้มันได้รุกล้ำเข้ามาถึงระดับ ความคิด
และจิตใจแล้วด้วยซ้ำ เพราะมันไม่ได้ถามแค่ว่าเรากำลังทำอะไร มันถามลึกเข้าไปขั้นว่าเรากำลังคิดอะไร
ผู้สร้าง เฟชบุ๊ค นั้นอ่านเกมได้ขาด ว่าสังคมรวมสมัยและความเป็นมนุษย์ของเรา ได้มีวิวัฒนาการมา
จนถึงจุดที่ไม่มีความเป็นส่วนตัวหลงเหลืออยู่อีกแล้ว พวกเรากำลังนำเอาความเป็นส่วนตัวออกมาตีแผ่
เพื่อสร้างความหฤหรรษ์ให้กันและกัน โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆสารพัดมาเป็นเครื่องมือ
โชเซียลเน็ตเวร์ก แห่งใหม่ๆ ที่เริ่มได้รับความนิยมในช่วงไม่กีปีที่ผ่านมา ล้วนมีพื้นฐานอยู่ที่การถ่ำมอง
และเปิดเผยความเป็นส่วนตัวทั้งสิ้น นอกจาก เฟชบุ๊คแล้ว อีกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ทวีดเตอร์ ชึ่งเรียก
สันๆว่า micro Blog เอาความลับของเรามาเปิดเพยกันทั้งสิ้น และขโมย เอาเวลาที่จะทำอะไรๆ ของเรา
ไปหมด
พวกเราใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ในแต่ละวัน กับการไล่เปิดดูภาพถ่ายวันหยุด สุดสัปดาส์ที่ผ่านมาของเพื่อน
ร่วมโรงเรียน ที่ไม่ได้เจอกันมาร่วม 20 กว่าปี และคิดว่าไม่จำเป็น ต้องกลับมาเจอกันอีกก็ได้ เพราะแค่เรา
Add Friends กันในเฟสบุีคก็คงพอแล้ว
ผู้ใช้ เฟชบุ๊ค หลายๆคนยังคงปากแข็ง ว่าต้นเองยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ แต่ลองถามเข้าไปใน
ใจของเราลึกๆ " คุณกำลังคิดอะไรอยู่ ? " ตอนที่กำลังใส่อะไรสักอย่างเพิ่มเข้าไปบนใบหน้า Well ตัวเอง
ผู้ใช้ เฟชบุ๊ก หลายคนหลงคิดไปว่าตัวเองยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ได้โดยตั้งค่า Privacy setting
อย่างเข้มงวดและรัดกุมที่สุด ชี้ให้เห็นชัดเจนที่สุดว่า เฟชบุ๊ค ของเรามีใครบางคน หรือหลายคนกำลัง
มองเราอยู่ มีให้เห็นอยู่ตำตา กระจัก กระจ่ายอยู่ในส่วนต่างๆของหน้าจอ เฟชบุ๊ค
อย่างเช่น ฟิเจอร์ People you may know และ Friends Sugges-tion เฟชบุ๊ค มันจะรู้ได้อย่างไร ว่าคุณ
อาจจะเพื่อนกับใคร หรือมันควรจะแนะนำใครให้คุณรู้จัก และพาคุณไปทำในสิ่งที่ คุณไม่เคยรู้มาก่อน
หรือ คุณเต็มใจไปกับคนที่คุณไม่รู้จัก แค่เจอกันใน เฟชบุ๊ค ( โง่สินดี ) และสิ่งที่หน้าขนลุก คือรายชื่อ
คนที่มันแนะนำมานั้น เราล้วนรู้จักจริงๆ
บนด้านขวามือบนหน้าจอคอม ของเรา มันคือแบนเนอร์โฆษณาสินค้าและบริการต่างๆ ที่เหมื่อนกับถูก
เลือกสรรมาเป็นอย่างดีว่าตรงกับนิสัยของเราพอดี
เฟชบุ๊คทำนายได้ว่าเรากำลังคิดอะไร
เพื่อนทุกคนที่เรามี สถานที่ทุกแห่งที่เราไป ประวัติชีวิต การศึกษา ครอบครัว ญาติพี่น้อง รสนิยม
หนังโปรด เพลงโปรด หนังสือที่เราอ่าน เครื่องสำอางที่เราใช้ เสื้อผ้าทีเราสวมใส่ คนที่เรารัก คนที่เราเกลียด คำที่เราเขียนบ่อยที่สุด ฯลฯ แม้กระทั้งความคิดดีที่อยู่ในหัว เฟชบุ๊ค ได้บันทึกเอาไว้หมดแล้ว
ด้วยอัลกอริทึม ที่สลับชับช้อนเกินกว่าผู้ใช้ธรรมดา ๆ อย่างเราจะยั่งรู้ กำลังจัดการประมวลผลข้อมูลเหล่านี้อยู่และกำลังนำมาใช้ประโยชน์
สิ่งที่มีมูลค่าทางธุรกิจในโลกอินเตอร์เน็ตยุคปัจจุบัน จึงไม่ใช้แค่จำนวนครั้งที่เว็บแห่งนี้ถูก คลิก
แต่เป็นข้อมูลส่วนตัวจำนวนมาก ที่คนนับล้านๆมาส่งมอบให้เว็บแห่งนี้แบบฟรีๆ
ในขณะที่เราทุกๆคน คลิก เข้าไปในเฟชบุ๊คอย่างเพลิดเพลิน และนำความเป็นส่วนตัวมาสร้างความ
หฤหรรษ์ให้กันและกันแบบ Voyeurism และ Exhibitionism ใครบางคนกำลังติดตามและถ่ำมองเรา
อยู่เหนือเราขึ้นไป
หลังจากที่โดน เฟชบุ๊ค ถามว่า " คุณกำลังคิดอะไรอยุ่ ? " ทุก ๆ วันก็น่าจะถึงเวลาที่เราจะถามตัว
เองว่า ทำไม่กูถึงได้ โง่ มานั้งเสียเวลา ทำงาน เวลาเรียน เวลาอ่านหนังสือเรียน เวลาช่วยงานบ้าน ให้
พ่อ และ แม่ เวลานอน ฯลฯ
เราอย่าลืมถาม " เฟชบุ๊คมันกำลังคิดอะไรกับเรา ? "
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
นักกิจกรรมประท้วงวอลสตรีท ประกาศเข้ารับอิสลาม
Phaisan Matkasem
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)